ปัจจัย 4 ที่เด็กจะประสบความสำเร็จ

ปัจจัย 4 ที่เด็กจะประสบความสำเร็จ

 

ระดับฝีมือหมากล้อมในเมืองไทยนั้นเริ่มต้นกันที่ 15 คิว ถึง 1 คิว แล้วก็จะเป็น 1 ดั้ง ถึง 7 ดั้ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการเล่นหมากล้อมในเมืองไทย แต่ระดับที่จะเรียกได้ว่าเล่นหมากล้อมเป็นแล้วจะนับกันที่ 8 คิว
ในแต่ล่ะปีมีเด็กมาสอบวัดระดับฝีมือหมากล้อม ณ สนามสอบกลางซึ่งชมรมครูหมากล้อมแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดครั้งล่ะหลาย 100 คน มีทั้งคนที่สอบผ่านและสอบไม่ผ่าน เราจจึงได้เห็นทั้งรอยยิ้มและน้ำตาของเด็กๆที่ปราถนาจะเป็นยอดฝีมือ โดยเป้าหมายของทุกคนจะมุ่งไปที่ 1 ดั้ง ซึ่งเป็นระดับอาจารย์ เส้นทางที่ดูยากลำบากนั้น บางคนเดินทางไม่นานก็ถึงเป้าหมาย บางคนเดินทางเนิ่นนานและดูเหมือนเส้นทางไม่มีที่สิ้นสุด บางคนล้มลงแล้วลุกขึ้นเดินต่อไป บางคนยอมแพ้แล้วละทิ้งเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรก
จากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นมีหลายปัจจัยมากที่เด็กคนหนึ่งจะก้าวเดินไปถึงเป้าหมายได้ดังที่ตั้งใจไว้

ปัจจัยแรก: พ่อแม่
เด็กคนหนึ่งประสบความสำเร็จได้หรือไม่นั้น พ่อแม่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่สุดสำหรับลูก พ่อแม่ต้องเข้าใจลูกอย่างแท้จริง รู้ว่าลูกชอบหรือ ไม่ชอบอะไรและส่งเสริมอย่างสุดความสามารถ คุณสมบัติของเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาแล้วชอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยที่ไม่มีเหตุผลหรือผลประโยชน์ใดๆ มาผูกมัด เป็นความชอบที่มาจากก้นบึงของหัวใจนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งและทรงคุณค่าอย่างมหาศาล บางครั้งพ่อแม่ต้องกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ต้องลงมือปฎิบัติและเรียนรู้ทุกข์สุขไปพร้อมกับลูกๆ แนะนำเส้นทางที่เหมาะสม บางครั้งเราอาจไม่สามารถใช้เพียงดวงตาเพื่อมองให้เห็นได้อย่างชัดเจน แต่ต้องใช้ใจเพื่อทำความเข้าใจลูกๆ ด้วย หากว่าลูกของเราชอบสิ่งใด(ที่ไม่ได้ผิดศีลธรรม) นั่นแหละคือคุณค่าที่แท้จริงในปัจจุบันซึ่งเราควรส่งเสริมให้เต็มกำลังเท่าที่พ่อแม่จะทำได้ แม้ในวันข้างหน้าลูกอาจจะเปลี่ยนใจไปชอบอย่างอื่นก็ตาม ขอเป็นเพียงความชอบของลูกจริงๆ เพราะการรักหรือชอบสิ่งใดนั้นไม่ง่ายเลยกว่าคนคนหนึ่งจะค้นพบ

ปัจจัยข้อที่ 2: ตัวของเด็กเอง
เด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ เรียนรู้ได้เร็วกว่าเพื่อนๆในวัยเดียวกัน ขณะที่เด็กบางคนพรสวรรค์จะค่อยๆ ปรากฏออกมาให้เห็นตามกาลเวลา แต่หากเด็กคนนั้นมีความชอบ ความรัก ความมุ่งมั่น ความทุ่มเท ความมีวินัย ปัจจัยเหล่านี้หากอยู่ในตัวของเด็กหรือบุคคลในวัยใดก้ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนคนนั้นสามารถที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมาย และประสบความสำเร็จในชีวิตตามที่คาดหวังไว้ได้

ปัจจัยข้อที่ 3: สถาพแวดล้อม
เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีครอบครัวอันอบอุ่น เพื่อนที่ดี สังคมที่ดี สถานที่เรียนที่ดี ย่อมมีโอกาสพัฒนาได้ดี ในข้อนี้จะพูดถึงเพื่อน ส่วนใหญ่หากเด็กมีเพื่อนในรุ่นราวคราวเดียวกันเด็กจะมีแรงกระตุ้นที่จะพัฒนาตนเองได้ดี เพื่อนที่เล่นด้วยกัน เพื่อนที่ไปแข่งด้วยกัน เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขในการแข่งขัน และเพื่อนที่เป็นคู่แข่ง เพื่อนเหล่านี้ต่างให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไปและจะเป็นปัจจัยที่ทำให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยข้อที่ 4: ครูผู้สอน ครูผู้สอนนับเป็นแม่พิมพ์ของเด็ก สไตล์การเดินหมากรูปแบบหมาก ครูจะเป็นผู้ที่ปลูกฝังทัศนคติ ความคิดต่างๆแก่ลูกศิษย์ ความรู้ต้องคู่กับคุณธรรม ครูต้องสอนได้ทั้งฝีมือในเชิงหมากล้อม เพื่อที่คนภายนอกหรือพ่อแม่จะได้เห็นพัฒนาการในสิ่งที่ตาจับต้องได้และครูจะต้องปลูกฝังเมล็ดพันธ์คุณธรรมประจำใจ เพื่อให้คุณธรรมนี้เติบโตขึ้นไป พร้อมกับวัยและฝีมือเชิงหมากล้อมที่สูงขึ้น

ทั้งฝีมือเชิงหมากล้อมและการปลูกฝังคุณธรรมประจำใจ บางครั้งดูเหมือนเป็นเส้นขนาน เพราะครูส่วนใหญ่ในโลกใบนี้ต่างมุ่งเน้นไปยังสิ่งที่จับต้องได้คือฝีมือเชิงหมากล้อมของเด็ก อาจเนื่องด้วยเวลาที่ได้พบเจอกันน้อยต่อครั้ง ชีวิตหน้าที่การงาน ชื่อเสียง หรือปัจจัยอีกหลายอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึง

ครูที่เน้นฝีมือเชิงหมากล้อมเปรียบเทียบได้กับการสอนที่เน้น IQ (Intelligence Quotient) เป็นหลักซึ่งก็จะไม่ถนัดการสอนด้าน EQ (Emotional Quotient)  EQ ในหมากล้อมคือความเข้าใจธรรมชาติของคน ปรัชญาหรือคุณธรรมที่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต แต่ครูอีกประเภทหนึ่งคือเน้น EQ (Emotional Quotient)เป็นหลักมากกว่า IQ (Intelligence Quotient) ส่วนมากแล้วจะสลับๆ กัน จะหาคนที่สอนควบคู่กันไปทั้ง 2 อย่างค่อนข้างยาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ครูที่เข้าใจจะตื่นรู้แล้วพัฒนาตนเองให้ก้าวขีดจำกัดของตนเอง

ครูที่ดีจะเป็นแต่เพียงผู้ชี้ให้เด็กเห็นทางเลือกแล้วให้เค้าตัดสินใจเอง ครูต้องไม่ยัดเยียดความคิดความเชื่อของตนเองให้กับเด็ก บางครั้งครูอาจบอกกับเด็กได้ว่าไม่จำเป็นต้องเชื่อที่ครูสอนก็ได้ แต่ให้นักเรียนคิดแล้วหาเหตุผล หัวข้อที่นำมาถกเถียงกันเป็นการสร้างจินตนาการและไม่ปิดกันความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
คุณเชื่อไหมครับว่า ครูบางคนเพียงเห็นเด็กและสอนเพียงครั้งแรกครั้งเดียวก็สามารถรู้ได้แล้วเด็กคนนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน เด็กคนนี้วันข้างหน้าก้าวไปในทิศทางใด นิสัยใจคอพื้นฐานเป็นอย่างไร ประสบการณ์และ sense จะบอกครูถึงตัวตนของเด็กได้

ครูที่ดีหายากดังงมเข็มในมหาสมุทร
แต่ครูที่เรารักจะดีที่สุด
โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบครูเรากับใคร
HUG ปีที่13 ฉบับที่12/ 15มีค-14 พค 2564
ครูจักร์